Bon Jovi เป็นวงฮาร์ดร็อคจาก Sayreville นิวเจอร์ซีย์ รวมตัวกันในปี 1983 นักร้องนำของวง จอน บอง โจวี , มือกีต้าร์ ริชี แซมโบรา ,มือคีย์บอร์ด เดวิด ไบรอัน ,มือเบส อเล็ก จอห์น ซัช และมือกลอง ทิโก ตอร์เรส ต่อมา อเล็ก จอห์น ซัชออกจากวงในปี 1994 นอกเหนือจากนั้นสมาชิกยังเป็นคนเดิม
วงประสบความสำเร็จจากอัลบั้มชุดที่3 Slippery When Wet (1986) และ ชุดที่4 New Jersey (1988)
Bon Jovi Live In Tokyo 2008 - Lost Highway Tour เป็นบันทึกการแสดงสดของวงเมื่อวันที่ 13 - 14 มกราคม ปี 2008 ที่ Tokyo Dome ประเทศญี่ปุ่น คอนเสิร์ตนี้เป็นแค่ส่วนหนึ่งของทัวร์คอนเสิร์ต Lost Highway Tour เพื่อโปรโมทอัลบั้มที่สิบ Lost Highway วงBon joviจะทำการแสดงทั่วโลก โดยเริ่มการแสดงตั้งแต่เดือนตุลาคม ปี 2007 ถึง กรกฏาคม ปี 2008 คอนเสิร์ตนี้มีเพลงดังๆ คุ้นๆหู ให้ฟังให้ดูกันมันๆหลายเพลงทีเดียว
Bon Jovi Live In Tokyo 2008 - Lost Highway Tour - คอนเสิร์ตออนไลน์ฮาร์ดร็อคมันๆที่ได้รับความนิยมสูง
รายชื่อเพลง
1. We Got It Going On
2. Whole Lot Of Leavin'
3. Lost Highway
4. The Radio Saved My Life Tonight
5. In These Arms
6. Story Of My Life
7. Captain Crash & The Beauty Queen From Mars
8. These Days
9. Any Other Day
10. Bad Medicine
11. You Says You Can't Go Home
12. We Got It Going On
13. I Die For You
14. I Love This Town
15. Want Dead Or Alive
16. It's My Life
17. Raise Your Hands
18. Someday I'll Be Satureday Night
สมาชิกวง
Jon Bon Jovi (lead vocals, acoustic guitar, harmonica)
Richie Sambora (guitar, backing vocals, talkbox)
Hugh McDonald (bass, backing vocals)
Tico Torres (drums, percussion)
David Bryan (keyboards, piano, backing vocals)
Additional personnel
Bobby Bandiera (guitar, backing vocals)
Lorenza Ponce (violin, backing vocals)
Kurt Johnston (pedal steel guitar, backing vocals)
มือกีต้าร์ ริชี แซมโบรา และนักร้องนำ จอน บอง โจวี เคยออกไปทำอัลบั้มเดี่ยว สุดท้ายก็กลับมารวมกันเป็นวงเหมือนเดิม
It's My Life เป็นเพลงที่ทำให้คนไทยหลายคนรู้จักใวนหลายปีก่อน เพราะถูกนำมาเป็นเพลงประกอบหนังโฆษณารถTOYOTA
ชม Bon Jovi Live Acoustic Concert - This Left Feels Right
Bon Jovi Live In Tokyo 2008 - Lost Highway Tour - คอนเสิร์ตออนไลน์ฮาร์ดร็อคมันๆที่ได้รับความนิยมสูง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น